‘งาดำ’ นับว่าเป็นสุดยอดธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนานัปการ
ภายในเมล็ดงาดำประกอบไปด้วยน้ำมันเป็นส่วนประกอบกว่า 70% ซึ่งเป็นส่วนที่มีประโยชน์ที่สุดของ งาดำ และยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินอี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี โอเมก้า 3-6-9 และสารเซซามิน เป็นต้น
ซึ่งวิธีสกัดที่นิยมคือ ‘การสกัดเย็น’ เป็นวิธีที่แยกส่วนของน้ำมันออกจากเมล็ดงาในอุณหภูมิปกติ โดยไม่ผ่านความร้อนหรือใช้สารเคมี ทำให้ได้ น้ำมันงาดำ สกัดเย็น ที่ได้จะมีความบริสุทธิ์ ใสสะอาด ไม่มีกลิ่นหื่น และยังคงคุณภาพและสรรพคุณตามธรรมชาติของงาดำไว้อย่างครบถ้วน
น้ำมันงาดำ มีสรรพคุณ ดังต่อไปนี้
- บรรเทาอาการปวดเมื่อย
- ต้านการอักเสบตามข้อ
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคข้อเสื่อม
- ลดความดันโลหิต
- ช่วยการทำงานและการเต้นของหัวใจ
- บำรุงไต
- ช่วยป้องกันเส้นเลือดและลิ่มเลือดแข็งตัว
- ขยายหลอดเลือด
- กระตุ้นการไหลเวียนของระบบโลหิต
- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว
- ลดความเครียด
- บำรุงสมอง
- ป้องกันโรคหวัด
- เหน็บชา
- ตะคริว
แต่ยังมีอีกสรรพคุณหนึ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ว่างาดำมีสรรพคุณในการช่วยแก้ปัญหาเรื่องผมด้วย
สำหรับสรรพคุณของ ‘น้ำมันงาดำ สกัดเย็น’
ที่ส่งผลต่อผมโดยตรงคือ บำรุงหนังศีรษะถึงชั้นเซลล์ทำให้รากผมมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย รวมทั้งยัง ช่วยกระตุ้นรากผม ให้มีการเร่งสร้างเส้นผมใหม่ให้งอกเร็วขึ้น กระตุ้นการสร้างเม็ดสีทำให้ผมดำทั้งเส้นผมเดิมและเส้นผมที่งอกใหม่ พร้อมทั้งมีส่วนช่วยในการบำรุงผมให้มีความนุ่มลื่น ดกดำ เงางาม ดูมีน้ำหนัก ลดผมเสีย ผมแห้งแตกปลาย ผมชี้ฟู ผมเปราะบาง ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น ไม่ขาดง่าย เรียกได้ว่าเป็นน้ำมันสมุนไพรที่ครบเครื่องทั้งแก้ปัญหาผมเสีย บำรุงรักษา และดูแลเส้นผมให้สวยดูดีมีชีวิตชีวาอีกด้วย
นอกจากนั้นน้ำมันงาดำ สกัดเย็นยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบำรุงอวัยวะที่ส่งผลกับเส้นผมโดยตรง จากที่มีบันทึกทั้งในตำราการแพทย์ของจีนและอินเดียได้กล่าวไว้ว่า การรับประทานงาดำ เป็นการช่วยบำรุงสุขภาพไต ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สร้างและดูแลเส้นผม หากไตมีสุขภาพแข็งแรงดีก็จะส่งผลให้ผมดกดำเป็นเงางาม ไม่เสีย และไม่มีผมหงอก อย่างไรก็ตามวิธีใช้น้ำมัน งาดำสกัดเย็น ในการบำรุงผมที่ง่ายและนิยมที่สุดคือ ใช้หมักผม ซึ่งมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายสูตร เช่น
- ใช้ น้ำมันงา สกัดเย็น 100% ซึ่งนับว่าเป็นสูตรที่ง่ายที่สุดที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เพียงแค่ใช้ น้ำมัน งาดำ สกัดเย็น ชโลมลงบนเส้นผมและนวดให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นจึงสระด้วยแชมพูปกติ หากทำเป็นประจำจะช่วยให้ผมดกดำขึ้น มีสุขภาพแข็งแรง ดูเงาและลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ แต่หากคนไหนไม่สะดวกหมักผมเป็นเวลานาน ๆ หรือมีผมบางแล้วอยากกระตุ้นการงอกของเส้นผม แนะนำให้หมักก่อนสระผมทุกครั้งประมาณ 15 นาที จะช่วยให้ผมงอกเร็วขึ้น บำรุง และดูแลเส้นผมให้แข็งแรง
- น้ำมันงา สกัดเย็นผสมไข่แดง เป็นอีกสูตรหนึ่งที่ทำไม่ยากเพราะล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในครัวแค่ผสมไข่และน้ำมัน งาดำ สกัดเย็นให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาชโลมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วใช้น้ำอุ่น แนะนำว่าควรทำอย่างน้อย 2 อาทิตย์ครั้ง จะช่วยฟื้นฟูผมเสียจากการเปลี่ยนทรงผมโดยใช้สารเคมีให้กลับมาสวยเหมือนเดิม
- น้ำมันงา สกัดเย็น ผสมว่านหางจระเข้ ซึ่งวิธีในการเตรียมเริ่มต้นจากปอกเปลือกว่านหางจระเข้และล้างยางออกจากนั้นผสมน้ำมันงาสกัดเย็นกับวุ้นว่านหางจระเข้อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ นำไปตั้งไฟประมาณ 1-2 นาที ปิดไฟปล่อยให้เย็นแล้วนำมาหมักผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ 45 นาที ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด แม้วิธีหมักผมวิธีนี้จะยุ่งยากไปบ้างแต่ถ้าทำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็จะช่วยให้เส้นผมเงางามขึ้น รวมทั้งยังช่วยปกป้องผมจากแสงแดดอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการใช้ประโยชน์และสรรพคุณของ น้ำมันงาดำ สกัดเย็น ที่เรียกได้ว่าช่วยแก้สารพันปัญหาของเส้นผมได้ตั้งแต่รากผมจดปลายผม แถมยังช่วยให้แลดูผมสวยสุขภาพดีน่ามองอีกต่างหาก แต่หากใครที่ไม่มีเวลาในการหมักผม แนะนำว่าให้ลองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันงาดำ สกัดเย็นที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดมาใช้
ซึ่งนอกจาก น้ำมัน งาดำ สกัดเย็น แล้ว ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ดีและมีคุณภาพควรมีสมุนไพรชนิดอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะกรูดช่วยให้ดกดำดูเงางามมีชีวิตชีวา น้ำมันขิงช่วยกระตุ้นการงอก ช่วยให้รากผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย และน้ำส้มควันไม้
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ ช่วยกำจัดรังแคบนหนังศีรษะ บรรเทาอาการคัน รักษาผมเสียแห้งแตกปลาย ป้องกันผมร่วง ช่วยให้ผมเงางาม และทำให้ผมหงอกช้าลงด้วย ดังนั้นหากเห็น ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของ น้ำมันงาสกัดเย็น น้ำมันมะกรูด น้ำมันขิง และน้ำส้มควันไม้ ให้หยิบมาใช้เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยแก้ทุกปัญหาผมของคุณให้กลับมาแข็งแรง สวย และดูดีได้อีกครั้ง