ผมร่วงผมบาง นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ครับหากเราไม่รู้ว่าสาเหตุที่ผมร่วงนั้นเกิดมาจากอะไร ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจถึงขั้นผมบาง ศีรษะล้านได้เลย ไม่ได้พูดเล่นนะครับสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมที่ทำอยู่ในทุกๆ วันหลายคนที่มีปัญหาผมร่วงผมบาง หาวิธีรักษาไม่ได้ก็เพราะพฤติกรรมทั้ง 11 ข้อนี้เอง 11 ข้อนี้ ผมเรียงลำดับความสำคัญไว้ให้แล้วหากพบว่าพฤติกรรมข้อไหน ที่เราทำอยู่เป็นประจำขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมนั้นๆ ทันทีนะครับมีคนจำนวนมากมาย ที่มีปัญหาผมร่วงผมบาง…แต่เพราะมีเส้นผมใหม่ขึ้นทดแทนได้ตลอดจึงไม่หาวิธีป้องกันรักษา อยากเตือนด้วยความปรารถนาดีอย่างที่สุดครับว่าขอให้รีบหาทางป้องกันรักษาโดยเร็วที่สุดก่อนที่เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้น เพราะเมื่อวันใดที่เส้นผมใหม่ขึ้นทดแทนไม่ทันวันนั้นเส้นผมจะบางลงอย่างรวดเร็วมาก มากจนคิดไม่ถึงเลยครับ (ผมเจอสถานการณ์แบบนี้ของลูกค้าเป็นจำนวนมาก ถึงมากที่สุดจึงอยากเตือนไว้ เพราะเรื่องแบบนี้ ป้องกันและรักษาได้ไม่ยากแค่ทำตาม ” 11 เรื่องของเส้นผม…ที่ไม่รู้ไม่ได้ก่อน ผมร่วงผมบาง ” เท่านั้นเองครับ)
1. ใช้แชมพูที่ผลิตจากสารเคมีทำให้ ผมร่วง ได้
ข้อนี้คืออันดับ 1 ที่ควรต้องรู้จริงๆ ครับ ปัญหาสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคนสมัยนี้ เกิดจากการใช้แชมพูที่ผลิตจากสารเคมีมากที่สุดเพราะอะไร?
เพราะแชมพูแทบจะทุกยี่ห้อ มุ่งเน้นในเรื่องของการเคลือบเส้นผม ให้นุ่มลื่น เงางาม ยิ่งลื่นมาก ยิ่งขายดี เพราะเขาทำให้เราเชื่อว่า เส้นผมที่แข็งแรงนั้น ดูได้จากเส้นผมที่เงางามมีน้ำหนัก นุ่มลื่น
- ไม่เคยมียี่ห้อไหนพูดถึงการบำรุงหนังศีรษะ ทั้งๆ ที่หนังศีรษะและรากผมต่างหาก ที่เป็นบ่อเกิดของเส้นผม ไม่น่าจะใช่การเอาสารลื่นๆ มาเคลือบเส้นผม แล้วบอกว่า เส้นผมของเรามีสุขภาพดี
- สารเคมีที่ในการเคลือบเส้นผมนั้น มักจะใช้สารจำพวกซิคิโคน (มักจะมีชื่อลงท้ายด้วย cone เช่น Simethicone, Diethicone ฯลฯ)
สารซิลิโคนนี้ไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่า จึงตกค้างบนหนังศีรษะเคลือบรูรากผมของเรา - เมื่อใช้ต่อเนื่องนานๆ จึงเกิดการสะสม อุดตันรากผม ทำให้เซลผมทำงานผิดปกติ ระบบการดูดซึมอาหารลดลง
- ปกติ 1 รูรากผมจะมีผมงอกออกมาได้ 3-5 เส้น เมื่อถูกอุดตัน เส้นผมจึงไม่สามารถจะขึ้นมาได้เต็มที่ อาจจะขึ้นมาได้แค่ 1 เส้น หรือไม่สามารถขึ้นได้เลย รวมถึงเส้นผมที่ขึ้นมานั้นอาจลีบแบน เราจึงมีขนาดเส้นผมที่เล็กลงเรื่อยๆ
สังเกตุได้ชัดเจนว่าคนสมัยนี้เกิดปัญหาผมร่วงจนผมบาง กันตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เพราะสารเคมีเหล่านี้เองครับ
วิธีแก้ไข :
- หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่ผลิตจากสารเคมีที่มีส่วนผสมจำพวกซิลิโคนที่จะทำให้ผมร่วง ผมบางได้ หันมาใช้แชมพูที่ผลิตจากสมุนไพร
- สระผมแนะนำเป็นช่วงเช้า แต่ถ้าหากต้องสระผมตอนกลางคืนหรือตอนเย็น ก่อนนอนต้องมั่นใจกว่า เส้นผมและหนังศีรษะแห้งสนิท อย่านอนทั้งๆ ที่ผมยังชื้นนะครับ
- เพื่อป้องกันการเกิดอาการคันหนังศีรษะและกลิ่นเหม็นจากเชื้อรา
2. ใช้ครีมนวดผิดวิธีก็ทำให้ ผมร่วงผมบาง ได้เพราะ ?
ข้อนี้สาวๆ หลายคน ตกม้าตายกันเยอะเลย เพราะคิดว่าครีมนวดผมนั้น บำรุงหนังศีรษะด้วยเวลานวดผม จึงนวดหนังศีรษะไปด้วย ซึ่งเท่ากับเราเอาสารเคลือบเส้นผมให้นุ่มลื่น ไปเคลือบหนังศีรษะเจ้าสารสารเคลือบผมนี้เอง ที่จะไปสะสมบนหนังศีรษะ จนรากผมอุดตัน และทำให้เกิดปัญหาผมร่วงจนผมบางในที่สุด
วิธีการใช้ครีนวดผมที่ถูกต้อง
- ใช้นวดบริเวณปลายผมเท่านั้น และระมัดระวังไม่ให้ครีมนวดผมสัมผัสกับหนังศีรษะทั้งตอนนวดผม และตอนล้างออก
- สำหรับสาวผมสั้น หรือหนุ่มๆ ที่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผม ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้ครีมนวดสัมผัสหนังศีรษะได้นั้น
- ขอแนะนำให้ใช้ครีมนวดผมที่ผลิตจากสมุนไพร เลือกที่ไม่มีสารเคลือบเส้นผมจำพวกสารซิลิโคนนะครับ
3. คนที่หนังศีรษะมัน และผมมันมีโอกาศผมร่วงมากกว่า
คนที่หนังศีรษะมัน และผมมัน มีโอกาสที่จะผมร่วง ผมบาง มากกว่าคนทั่วไปครับ เพราะน้ำมันบนหนังศีรษะ
- จะทำให้หนังศีรษะสกปรกได้ง่าย
- ความมัน จะทำให้อากาศบริเวณหนังศีรษะถ่ายเทได้น้อย รากผมจึงได้รับออกซิเจนน้อยกว่าคนที่หนังศีรษะธรรมดา
- เมื่ออายุมากขึ้น ต่อมไขมันบนหนังศีรษะจะขยายตัวใหญ่ขึ้น ทำให้เบียดรูรากผม จนทำให้รูรากผมมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เส้นผมจึงลีบแบนลง และรูรากผมซึ่งปกติจะมีผมงอกได้ 3-5 เส้น ก็กลายเป็นงอกได้เพียง 1-2 เส้น หรือไม่งอกเลย
วิธีแก้ไข :
- ห้ามคนที่หนังศีรษะมัน และผมมัน ใช้แชมพูที่ผลิตจากสารเคมีโดยเด็ดขาด
- เพราะแชมพูที่ผลิตจากสารเคมีส่วนใหญ่ จะมีสารเคลือบเส้นผมให้นุ่มลื่นเงางาม
- เจ้าสารนี้เอง ที่จะเข้าไปเคลือบบนหนังศีรษะด้วย ทำให้รากผมอุดตัน
- หากคนที่มีหนังศีรษะมันด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้หนังศีรษะอักเสบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รากผมอุดตันเร็วยิ่งขึ้น
- สังเกตุได้จากอาการคันศีรษะ หรือ หนังศีรษะมีกลิ่นเหม็น ฯลฯ
- คนที่หนังศีรษะมัน หรือผมมัน ต้องเลือกใช้แชมพูสมุนไพรที่สามารถขจัดความมันได้ดี พร้อมให้คุณค่าบำรุงที่เส้นผมและหนังศีรษะต้องการ เพื่อให้รากผมแข็งแรงพอจะสู้กับความมันบนหนังศีรษะระหว่างวันได้ครับ
4. อย่าสระผมด้วยน้ำอุ่นเพราะจะทำให้ผมร่วง
เชื่อว่า คนที่ติดน้ำอุ่น มักจะสระผมด้วยน้ำอุณหภูมิเดียวกันกับที่ใช้อาบแน่นอนใช่ไหมครับ
- น้ำอุ่นเกินไป หรือยิ่งใครที่ชอบอาบน้ำอุ่นกึ่งร้อน ยิ่งอันตรายต่อหนังศีรษะและเส้นผมมากๆ
- เพราะน้ำอุ่นจะทำให้หนังศีรษะ และเส้นผมสูญเสียความมันที่หล่อเลี้ยงเส้นผมมากเกินไป
- ทำให้รากผม และเส้นผมอ่อนแอ หลุดร่วงและขาดง่าย
วิธีแก้ไข :
ให้ใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการสระผม หากเป็นฤดูหนาว สามารถปรับให้น้ำอุ่นขึ้นได้ แต่อย่าให้อุ่นร้อนเกินไป แต่ก็ไม่ต้องถึงกับทนหนาวนะครับ
5. อย่านอนตอนผมยังชื้นๆ อาจจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
- หลายๆ คน ชอบสระผมเวลากลางคืน
- หลายคนนอนตอนผมยังไม่แห้งสนิท
- หลายคนเป่าผมเสร็จเข้านอนเลย โดยคิดว่าผมแห้งสนิทแล้ว แต่ความชื้นบนหนังศีรษะยังไม่หมดไป
ผลลัพธ์ คือ เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
- รังแคตามมา
- หนังศีรษะอ่อนแอลงเรื่อยๆ
- หนังศีรษะมีกลิ่น
- ผมร่วง ผมบาง จนถึงขึ้นอาจทำให้ศีรษะล้านได้ ถ้าแก้ไขไม่ทัน
วิธีแก้ไข :
- ควรสระผมตอนเช้า ดีที่สุดครับ
- ห้ามนอนตอนผมชื้น หากสระผมกลางคืน ต้องเป่าผมให้แห้งสนิท และไม่ควรเป่าผมเสร็จแล้วนอนทันที เพราะอาจยังหลงเหลือความชื้นบนหนังศีรษะได้ ควรรอสัก 1-2 ชั่วโมงจึงเข้านอน
- หากเกิดปัญหาเชื้อราบนหนังศีรษะแล้ว ให้เลือกใช้แชมพูสมุนไพร ที่มีสรรพคุณของสมุนไพรในการรักษาผิวหนังศีรษะอักเสบอย่างได้ผล
6. การย้อมผม กัดสี ยืดผม ดัดผม ทำให้ผมร่วงได้มากกว่าที่คิด
คงไม่ต้องบอกว่า น้ำยาเคมีเหล่านี้ มีผลทำร้ายหนังศีรษะมากเพียงใดนะครับ ใจจริง อยากให้ทุกคน “รักสีผม” ของตัวเอง
สีผมตามธรรมชาติ คือสีผมที่สวยที่สุด มีผู้ที่ผมร่วงเพราะกัดสีผม ย้อมสีผม ยืดผม มีจำนวนมากมายมหาศาลเหลือเกินครับ
- ทุกคนที่ผมร่วงผมบางเพราะสาเหตุดังกล่าวนี้ ต่างรู้สึกเสียใจมากที่สุด
- เสียดายเส้นผมที่ร่วงไปมากมายจนผมบาง เห็นหนังศีรษะ
- ถ้าให้เลือกใหม่ได้ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอให้เส้นผมเป็นสีอะไรก็ได้ ผมหงอกก็ยอม แต่ขอให้ผมหนาเหมือนเดิมได้ไหม
- การที่ผมบางจนเห็นหนังศีรษะ มันทรมานใจมากเพราะมันทำให้เสียบุคลิกภาพ เสียความมั่นใจทั้งหมด
ถ้าคุณเป็นคนนึง…ที่ยังไม่ประสบปัญหาผมร่วงจนผมบาง เลิกเถอะครับ การกัดสี ย้อมสีผม ยืดผม ดัดผม สารเคมีในน้ำยาเหล่านี้ ทำร้ายหนังศีรษะอย่างรุนแรง
อะไรหลีกเลี่ยงได้ ขอให้หลีกเลี่ยงอย่าไปทำเลยครับแต่หากเป็นการย้อมผมเพื่อปิดผมขาว อันนี้ผมเข้าใจได้ และมีวิธีมาแนะนำครับ
วิธีแนะนำ :
หากต้องย้อมผม เพื่อปิดผมขาว
- ขอให้เลือกใช้ยาย้อมผมยี่ห้อที่ไม่ทำให้เราผมร่วง โดยสังเกตุไปทีละยี่ห้อครับ
- หากเจอยี่ห้อที่เหมาะกับเราแล้ว ขอให้ใช้ยี่ห้อนั้นๆ อย่าเปลี่ยนยี่ห้อบ่อยๆ เพราะถ้าไปเจอยี่ห้อที่เราแพ้ เราอาจจะประสบภาวะผมร่วงรุนแรงได้
- เลือกใช้แชมพูสมุนไพร ที่มีคุณค่าบำรุงฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง และสามารถล้างสารเคมีที่ตกค้างบนหนังศีรษะให้หมดไปได้ ก็จะทำให้หนังศีรษะแข็งแรงเพียงพอที่จะทนต่อการย้อมผมได้
- แต่ก็ไม่ควรย้อมผมบ่อยเกินไป (สัก 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง จะดีมากครับ)
7. ผมร่วง ผมบาง จากการใส่หมวกทำงาน
ใส่หมวกทำงาน อาชีพที่ต้องใส่หมวกทำงานมีโอกาสทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง ได้มากเพราะ
- เส้นผมต้องถูกเหนี่ยวรั้งจากหมวก
- รากผมขาดออกซิเจน
- ความอับชื้น ยิ่งหากไม่ได้ทำความสะอาดหมวกที่ใช้เป็นประจำ อาจทำให้เกิดเชื้อรา หรือแบคทีเรียต่างๆ ทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ ยิ่งทำให้หนังศีรษะอักเสบ อ่อนแอ จนเกิดภาวะผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านในที่สุด
วิธีแก้ไข :
- หลีกเลี่ยงอาชีพที่ต้องใส่หมวกทำงาน
- หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรหาโอกาสถอดหมวกบ่อยๆ เพื่อให้เส้นผม และหนังศีรษะได้รับอากาศบ้าง หมั่นทำความสะอาดหมวกบ่อยๆ
- เลือกใช้แชมพูสมุนไพร ที่สามารถทำความสะอาด พร้อมให้คุณค่าบำรุงเส้นผม ล้างความมันและสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะได้จริงๆ พร้อมให้สารอาหารที่เส้นผมต้องการ เพื่อให้เส้นผมแข็งแรง มีสุขภาพดีพอที่จะต่อสู้กับภาวะที่ต้องใส่หมวกทำงานนั้นๆ ครับ
8. รวบผมตึงเกินไป
การรวบผมตึงเกินไป ทำให้รากผมถูกเหนี่ยวรั้งเป็นเวลานานรากผมจึงอ่อนแอ นำไปสู่ปัญหาผมร่วงและผมบางแนวผมตามหน้าผากร่น มากขึ้นเรื่อยๆ (หัวเถิก) ผมบางข้างหน้าผากนอกจากนี้การรวบผมตึงเกินไป มีผลทำให้เส้นผมเปราะ และฉีกขาดง่าย
วิธีแก้ไข :
- หลีกเลี่ยงการรัดผมตึงเกินไปเป็นเวลานานๆ
- ควรมีวันสบายๆ ปล่อยผม ให้ผมได้พักบ้าง
- เลือกใช้แชมพูสมุนไพร ที่มีคุณค่าบำรุง มีสารอาหารที่เส้นผมต้องการ เพื่อให้รากผมแข็งแรงทนต่อการเหนี่ยวรั้งได้ และช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง ไม่ฉีกขาดง่าย
9. น้ำหนักตัว ลดเร็วเกินไป
น้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างรวดเร็วเกินไปจะส่งผลให้ร่างกายขาดโปรตีนอย่างกะทันหันได้ ร่างกายจึงต้องดึงโปรตีนในส่วนอื่นๆ มาใช้ ซึ่งโปรตีนในเส้นผม จะไปโปรตีนชุดแรกๆ ที่ร่างกายจะดึงมาใช้ได้ง่ายที่สุด ดังนั้นอาการผมร่วงอย่างรุนแรงจึงเกิดขึ้นได้
หมายเหตุ :
แม้ว่าอาการผมร่วงจากการลดน้ำหนักเร็วเกินไป จะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนแต่ก็เป็นข้อควรระวังไว้ว่า เราไม่ควรหักโหมในการลดน้ำหนักเพื่อหวังจะให้ผอมเร็วๆ แต่ควรจะใช้วิธีค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว ก็จะช่วยป้องกันอาการผมร่วงรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้นได้ครับ
10. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง มีผลต่อการสุขภาพเส้นผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จาก
- ช่วงมีประจำเดือน
- ช่วงตั้งครรภ์
- ช่วงหลังคลอดบุตร
- วัยทอง
- หลังการผ่าตัด
- โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
เหล่านี้ สามารถทำให้เกิดภาวะผมร่วงมากได้ บางครั้ง
เมื่อผ่านช่วงระยะเวลานี้ไป อาการผมร่วงก็จะหายไปได้เองแต่ในหลายๆ คน กลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนังศีรษะอ่อนแอ ประกอบกับปัจจัยหลายๆ อย่างที่สะสมไว้ เช่นการใช้แชมพูที่ผลิตจากสารเคมี ที่ทำให้รากผมอ่อนแอ ผมจึงร่วงติดต่อกันยาวนานไปหลายปี จนเกิดอาการผมบาง ศีรษะล้านได้
วิธีแก้ไข :
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ดูแลสุขภาพให้ดีที่สุด ในช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- เลือกใช้แชมพูสมุนไพร ที่มีคุณค่าบำรุงฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงที่สุด เพื่อให้เส้นผมแข็งแรง ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนได้
11. ความเครียด (รวมถึงการพักผ่อนน้อยด้วย)
ความเครียด ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนต่างๆ โดยเฉพาะฮอร์โมนที่ไม่ดีต่อสุขภาพออกมามาก เมื่อเราอยู่ในสภาวะเครียด รวมถึงการพักผ่อนน้อยก็เช่นกัน ซึ่งทำให้ผมหลุดร่วงได้มากกว่าปกติ
แม้จะไม่ส่งผลให้ผมร่วงรุนแรง แต่หากเราไม่ระวังดูแล หรือไม่รู้เท่าทันความเครียด ปล่อยให้ความเครียดเป็นเรื่องปกติประจำตัว
รวมถึงการขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอต่อเนื่องยาวนาน ปัญหาผมร่วงก็อาจลุกลามเป็นปัญหาผมบาง ศีรษะล้านในที่สุด
วิธีแก้ไข :
- เราควรฝึกทำสมาธิ ฝึกเจริญสติ เพื่อให้รู้เท่าทันอารมณ์
- เมื่อเรารู้เท่าทันอารณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเราจะค่อยๆ เรียนรู้ ที่จะละวางอารมณ์เหล่านั้นได้
- หมั่นเจริญสติบ่อยๆ สุขภาพจิตใจจะดีร่างกายจะแข็งแรงไปด้วย
- นอกจากเส้นผมไม่หลุดร่วงแล้ว ยังจะทำให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้นด้วยครับ