คงเคยได้ยินกันมาตั้งแต่สมัยปู่ยาตายายกันแล้วนะครับ สำหรับสมุนไพรอย่าง มะกรูด ที่จะช่วยแก้อาการ คันหัวและรังแค ได้ซึ่ง แชมพูขจัดรังแค ที่เป็นสมุนไพรส่วนใหญ่จะนิยมนำมาเป็นส่วนผสมกันนะครับ แล้วเคยสงสัยไมว่าเจ้าสมุนไพรอย่าง มะกรูด ที่นิยมนำมาทำ แชมพูขจัดรังแค เนี่ย ทำไมมันถึงมีสรรพคุณที่จะช่วยแก้ คันหนังศีรษะ และ รังแค ที่หนังศีรษะได้ วันนี้เราจะมาอธิบายถึงสรรพคุณของสมุนไพรมะกรูดที่จะช่วยไขความข้องใจกันนะครับ
มะกรูด หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Kaffir lime, Leech lime, Mauritius papeda มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus x hystrix L. นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีชื่ออีกหลากหลายชื่อ อาทิเช่น มะขู (แม่ฮ่องสอน), มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ), ส้มกรูด ส้มมั่วผี (ภาคใต้) เป็นต้น เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูล ส้ม (Citrus) โดยมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
สารสําคัญของ มะกรูด
สารที่พบ กรดซิตริก “Citric” อยู่ในน้ำของผลมะกรูดและ ซิโตรเนลลา “Citronellal” จะอยู่ในส่วนของน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีทั้งในส่วนใบและเปลือกของผลที่ เรียกว่าผิวมะกรูดโดยที่ผิวมะกรูดจะมีน้ำมันหอมระเหย (Bergamot oil) 4 เปอร์เซ็นต์ และใบจะมีน้ำมันหอมระเหย 0.08 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพต่อจุลินทรียของผิวมะกรูดอยู่ที่ส่วนน้ำมันหอมระเหย ซึ่งผิวมะกรูดจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ดีกว่าใบมะกรูดจุลินทรีย์ที่ถูกยับยั้งได้ง่าย คือ รา ที่เป็นสาเหตุของอาการ คันหนังศีรษะ รังแค ดังนั้น ให้น้ำมันหอมระเหยไปเป็นสวนผสมใน แชมพูขจัดรังแค ที่มาจากสาเหตุจากเชื้อรา
Bergamot oil ที่ผมผสมใน แชมพูขจัดรังแค
น้ำมันหอมระเหยจากมะกรูด ให้กลิ่น เปรี้ยวอมหวานทำให้รู้สึกสดชื่น มีส่วนช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม ป้องกันการติดเชื้อและกระจายตัวของเชื้อโรคได้ แชมพูขจัดรังแค ส่วนใหญ่จึงน้ำมาเป็นส่วนผสมในตัวผลิตภัณฑ์
น้ำมันหอมระเหย คืออะไร ?
น้ำมันหอมระเหยเป็นสารอินทรีย์ที่พืชผลิตขึ้นตามธรรมชาติ เก็บไว้ตามส่วนต่าง ๆ เช่น กลีบดอก ผิวของผล เกสร ราก เปลือกของลำต้น หรือยางที่ออกมาจากเปลือก มีองค์ประกอบทางเคมีที่สลับซับซ้อนและแตกต่างกันนับสิบร้อยชนิด น้ำมันมีลักษณะเป็นของเหลวไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนน้ำมันพืช มีกลิ่นหอมระเหยง่าย เวลาที่ได้รับความร้อนอนุภาคเล็ก ๆ ของน้ำมันหอมระเหยจะระเหยออกมาเป็นไอทำให้เราได้กลิ่นหอม กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยในส่วนของดอกไม้มีบทบาทสำคัญในการช่วยดึงดูดแมลงมาผสมเกสร ปกป้องการรุกรานจากศัตรู และรักษาความชุ่มชื้นแก่พืช สำหรับประโยชน์ต่อมนุษย์ น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค บรรเทาอาการอักเสบ หรือลดบวม คลายเครียด หรือกระตุ้นให้สดชื่น ทั้งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด
น้ำมันหอมระเหยมีผลต่อร่างกายต่าง ๆ มากมาย แตกต่างกันตามแต่ละชนิด ดังนี้
- มีผลกระตุ้นการไหลเวียนของระบบเลือด ช่วยให้ร่างกายสามารถขจัดของเสียได้มากขึ้น
- ช่วยเสริมภูมิต้านทานร่างกายและชะลอการเหี่ยวย่นของผิว
- มีผลต่อระบบการทำงานของน้ำเหลือง เม็ดเลือดขาว ที่ขจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างการ ช่วยรักษาอาการอักเสบ
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ
- มีผลต่อระบบย่อยอาหาร กล้ามเนื้อในระบบย่อยอาหาร ช่วยขับลม ลดแก๊ส
- มีผลต่อระบบประสาท กระตุ้นความจำ อารมณ์ ช่วยผ่อนคลายหรือกระตุ้นความรู้สึก
- มีผลต่อระบบสืบพันธ์ ฮอร์โมนเพศ เช่นรักษาสมดุลของรอบเดือน หรือกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ
- มีผลต่อโครงสร้างร่างกาย รักษาแผล สร้างเซลล์ใหม่
- มีผลต่อการรักษาผิว ลดเลือนรอยแผลเป็นหรือใช้สมานแผลเพื่อป้องกันรอยแผลเป็น
ส่วนขั้นตอนการใช้มะกรูดในการรักษารังแค และ คันหัว
มะกรูดบำรุงผม
คุณค่าของมะกรูดในการบำรุงเส้นผมนั้นอาจเป็นสิ่งที่หลายๆ ท่านรู้กันดีอยู่แล้ว เพราะแม้กระทั่งผู้ผลิตยาสระผมบางรายยังใช้เป็นประเด็นในการโฆษณาว่า แชมพูมีส่วนผสมมะกรูด มะกรูดไม่เพียงแต่ทำให้ผมดำเป็นเงางามเท่านั้น แต่ยังช่วย ขจัดรังแค แก้คันหนังศีรษะ แก้ผมแตกปลาย ป้องกันผมร่วง และทำให้ ผมหงอกช้า มะกรูดเป็นสมุนไพรธรรมชาติ จึงไม่ต้องกลัวแพ้เหมือนแชมพูที่ทำจากสารเคมี ที่สำคัญมะกรูดบำรุงผมได้ทุกชนิด คนผมแห้งหรือผมมันก็ใช้ได้
วิธีใช้มะกรูดสระผม
การนำมะกรูดมาสระผมนั้นมีหลายวิธีให้เลือก
1. เอามะกรูดสดๆ มาผ่าครึ่ง แคะเอาเม็ดออก บีบเอาน้ำมาใช้สระผม แต่วิธีนี้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำมันที่ผิวมะกรูด
2. ปอกผิวมะกรูดออก นำมาตำให้ละเอียด แล้วบีบน้ำมะกรูดผสมลงไป เติมน้ำลงไปอีกพอให้ส่วนผสมเริ่มเหลว คนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วกรองคั้นเอาแต่น้ำไปใช้ วิธีนี้เวลาสระจะได้กลิ่นเหม็นเขียวจากผิวมะกรูด แต่สระเสร็จแล้วจะหอมได้ผลดีที่สุด
3. เอาลูกมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นและนำมาเข้าเครื่องปั่นจนละเอียดที่สุด เอาออกมาใส่ชามเติมน้ำอุ่นลงไปจนท่วม คนให้ทั่ว ตั้งทิ้งไว้ 10-20 นาที คั้นเอาแต่น้ำใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ น้ำมะกรูดจะอยู่ได้ 1-2 สัปดาห์ สำหรับมะกรูดนั้นจะใช้มะกรูดสดหรือเผาไฟก่อนก็ได้
เมื่อได้น้ำมะกรูดแล้วก่อนสระผมควรราดผมให้เปียกชุ่มเสียก่อน เนื่องจากน้ำมะกรูดมีฤทธิ์เป็นกรดแก่ กัดหนังศีรษะได้ น้ำมะกรูดเมื่อเจือจางลง ฤทธิ์อ่อนลงไปด้วย ขณะที่สระผมควรนวดศีรษะไปด้วย ทิ้งไว้สองสามนาที ล้างออกและสระซ้ำอีกครั้ง แล้วล้างออกให้สะอาด อย่าให้มีเศษมะกรูดหลงเหลืออยู่ เพราะจะทำให้ผมเสีย ที่สำคัญระวังอย่าให้น้ำมะกรูดเข้าตาหรือถูกปาก เพราะจะรู้สึกแสบตาและชาปาก เวลาใช้ตอนแรกอาจจะรู้สึกแสบที่หนังศีรษะบางแห่ง แสดงว่าตรงนั้นมีแผลอยู่ ไม่เป็นอันตรายอะไรใช้ไปเรื่อยๆ จะหายเอง แต่ถ้ารู้สึกแสบทั้งหนังศีรษะแสดงว่าน้ำมะกรูดข้นไป ต้องผสมน้ำให้เจือจางอีก หลายๆ คนอาจจะเคยอยากใช้มะกรูดสระผม แต่ขี้เกียจยุ่งยาก
ข้อมูลจาก : โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง
เห็นไหมครับว่ามะกรูดที่เรารู้จักกันมานานนั้นสารพัดประโยชน์จริงๆ แต่การนำมาทำจริงๆ ก็จะทำได้ยากและเสียเวลามากอีกด้วย อีกทั้งการเก็บรักษาได้นาน ดังนั้น วิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดเวลานั้นคือการหา แชมพูขจัดรังแค ที่มีส่วนผสมของมะกรูด ที่จะช่วยขจัดรังแค แก้อาการคันหัว เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่าแชมพูขจัดรังแคตัวไหนละที่ใช้แล้วเห็นผลจริงๆ วันนี้เราจึงขอแนะนำ แชมพูสมุนไพรจากฮาวิล่าห์ ที่มีส่วนผสมจากมะกรูด ซึ่งช่วยในการ ขจัดรังแค ปลูกผมใหม่ แก้คันหัว รักษาผมร่วงได้จริง ซึ่งมีรีวิวจากผู้ใช้จริงมายืนยัน เพื่อนๆสามารถอ่านได้จาก รีวิวนี้ครับ รังแคเยอะมากทำไงดี